การพัฒนาทักษะการสื่อสารและการแก้ปัญหาในสถานที่ทำงาน

หลักการและเหตุผล   

          ในสภาวะแวดล้อมของการทำงานในปัจจุบัน ทักษะการสื่อสารและการแก้ไขปัญหานับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการสร้างสัมพันธภาพที่ดีในองค์กร การสื่อสารอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากรเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง อีกทั้งทักษะในการแก้ไขปัญหายังมีความจำเป็นสำหรับการจัดการกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนหรือความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในสภาพการทำงานที่มีความกดดัน โดยบุคลากรที่มีทักษะเหล่านี้จะสามารถเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์
          ทักษะการสื่อสารและการแก้ไขปัญหาไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสามารถในการพูดหรือรับฟัง แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ การควบคุมอารมณ์ การจัดการความขัดแย้ง การให้และรับข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) อย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนการคิดเชิงวิเคราะห์และการคิดสร้างสรรค์เพื่อหาทางออกในสถานการณ์ที่ท้าทาย ซึ่งทักษะเหล่านี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพขององค์กรและบรรยากาศการทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืน
          ด้วยเหตุนี้ การจัดทำหลักสูตร "การพัฒนาทักษะการสื่อสารและการแก้ปัญหาในสถานที่ทำงาน" จึงเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้สามารถใช้ทักษะเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งใน พนักงานปฏิบัติการ ระดับหัวหน้างาน และระดับองค์กร เพื่อให้บุคลากรสามารถนำความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์การทำงานจริง อันจะนำไปสู่การพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานและความสำเร็จที่ยั่งยืนขององค์กร                        

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
        ( 1 ) เพื่อเสริมสร้างทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้เข้าร่วมอบรม ให้สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน ตรงประเด็น และเข้าใจง่าย ลดการเกิดความเข้าใจผิดในสถานที่ทำงาน                        
        ( 2 ) เพื่อพัฒนาทักษะในการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้วิธีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์เพื่อค้นหาทางออกอย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์
        ( 3 ) เพื่อฝึกฝนการให้และรับข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาตนเองและปรับปรุงการทำงานร่วมกันในทีม                            
        ( 4 ) เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงวิเคราะห์และการคิดสร้างสรรค์ในกระบวนการแก้ไขปัญหา ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีคิดอย่างเป็นระบบและปรับใช้ความคิดสร้างสรรค์ในสถานการณ์ต่าง ๆ                        
        ( 5 ) เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในการนำทักษะการสื่อสารและการแก้ไขปัญหาไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์การทำงานจริง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเสริมสร้างความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร

หัวข้อและเนื้อหาวิชา (ภาษาไทย)
        ( 1 )     หัวข้อวิชา    การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ                          จำนวน           1.5    ชั่วโมง
                   คำอธิบายเนื้อหาวิชา โดยมีหัวข้อการอบรมสัมมนาดังนี้                            
                   1.    แนวทางการสื่อสารที่ชัดเจนและตรงประเด็น: ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการเลือกใช้คำพูดและวิธีการนำเสนอข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นที่การสื่อสารที่ไม่ซับซ้อนและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ฟังสามารถจับใจความสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
                   2.    เทคนิคการฟังอย่างตั้งใจและการทำความเข้าใจที่ถูกต้อง: การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการพูด แต่ยังรวมถึงการฟังอย่างตั้งใจ โดยจะมีการสอนวิธีการฟังที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าใจมุมมองและความต้องการของผู้อื่นได้ดีขึ้น
                   3.    การใช้ภาษากายและน้ำเสียงเพื่อเสริมสร้างการสื่อสาร: ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษากาย เช่น การสบตา การยิ้ม และท่าทางที่เปิดกว้าง รวมถึงการควบคุมน้ำเสียงเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในข้อความที่สื่อสาร
        ( 2 )     หัวข้อวิชา    การแก้ไขปัญหา                        จำนวน            1.5    ชั่วโมง
                   คำอธิบายเนื้อหาวิชา โดยมีหัวข้อการอบรมสัมมนาดังนี้                              
                   1.    วิธีการวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ต่าง ๆ: ผู้เข้าร่วมจะได้รับการฝึกฝนในการวิเคราะห์ปัญหาทางธุรกิจหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน โดยใช้กรอบการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพ
                   2.    เทคนิคการคิดเชิงวิเคราะห์และการคิดสร้างสรรค์: การคิดเชิงวิเคราะห์ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถประเมินข้อมูลและเลือกแนวทางที่ดีที่สุด ในขณะที่การคิดสร้างสรรค์จะช่วยในการค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา
                   3.    การใช้กรณีศึกษาในการแก้ไขปัญหา: จะมีการนำเสนอกรณีศึกษาจริงที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในองค์กร เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาจริง            
        ( 3 )     หัวข้อวิชา  การให้และรับ Feedback                        จำนวน            1    ชั่วโมง    
                   คำอธิบายเนื้อหาวิชา โดยมีหัวข้อการอบรมสัมมนาดังนี้                              
                   หลักการให้ Feedback อย่างสร้างสรรค์: ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการให้ Feedback ที่มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการสื่อสารในเชิงบวกและการเสนอแนะแนวทางการปรับปรุง                
                   1.    วิธีการรับ Feedback และการนำไปใช้ในการพัฒนา: การเรียนรู้วิธีการรับ Feedback อย่างเปิดใจ และการวิเคราะห์ Feedback ที่ได้รับเพื่อปรับปรุงตนเอง                            
                   2.    การสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างในการให้และรับ Feedback: จะมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่ผู้เข้าร่วมรู้สึกสบายใจในการให้และรับ Feedback เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม                    
        ( 4 )     หัวข้อวิชา การจัดการความขัดแย้ง และ    การพัฒนาความสัมพันธ์ในทีม        จำนวน            2    ชั่วโมง    
                   คำอธิบายเนื้อหาวิชา โดยมีหัวข้อการอบรมสัมมนาดังนี้                              
                   1.    วิธีการจัดการกับความขัดแย้งในทีมงาน: ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการระบุและวิเคราะห์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในทีมงาน และวิธีการจัดการให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
                   2.    เทคนิคการสื่อสารเพื่อการปรับความเข้าใจและหาข้อยุติ: จะมีการฝึกฝนเทคนิคการสื่อสารที่ช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถพูดคุยและหาข้อยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                   3.    การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ: การเรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกันในทีม โดยการแบ่งปันข้อมูลและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน
                   4.    การสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่ดีในองค์กร: ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่ดีในองค์กร โดยการส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดกว้างและ สนับสนุนการทำงานร่วมกัน
                   5.    Work Shop ชั่วโมง                                    

ระยะเวลาการฝึกอบรม  ( 1 วัน จำนวน  6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น.)
        ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับการฝึกอบรม ไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบของจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรมตามหลักสูตร
        ( 1 )     ผู้จัดการระดับต้น และ ระดับกลาง                                    
        ( 2 )  หัวหน้างงานแผนกต่างๆ                                
        ( 3 )     เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล                                    
        ( 4 )     เจ้าหน้าระดับปฎิบัติการและบุคลากรที่ต้องทำงานข้ามแผนก